ผงคินาโกะ
ภูมิปัญญาการแปรรูปถั่วเหลืองจากชุมชนบ้านดอนเจียง
บ้านดอนเจียงเป็นหมู่บ้านที่ปลูกถั่วเหลืองแทบทุกครัวเรือน มีการพัฒนาเป็นพืชเศษฐกิจ โดยมีการเพาะปลูกโดยใช้ระบบเกษตรอินทรีย์ มีการพัฒนาสายพันธุ์ทำให้สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ในการปลูกได้ในรอบต่อไป ไม่มีการพึ่งพาการซื้อจากภายนอก ผลผลิตส่วนหนึ่งส่งขายให้กับลูกค้า ส่วนหนึ่งนำมาทำการแปรรูป เช่น เต้าเจี้ยว เต้าหู้ และผงปรุงรสคินาโกะ
ที่มาของชื่อคินาโกะ มาจากนักศึกษาต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาฝึกงานในหมู่บ้าน ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้กับคนในชุมชนว่าในประเทศญี่ปุ่นมีการนำเอาถั่วเหลืองไปบดเป็นผงสำหรับทำขนม ทางชุมชนจึงมีการขอคำแนะนำในการแปรรูปถั่วเหลืองที่มีอยู่ให้มีความน่าสนใจต่อผู้บริโภค โดยบรรพบุรุษบ้านดอนเจียง จากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีการนำถั่วเหลืองมาคั่วและบด นำไปคลุกข้าว เพื่อเป็นการปรุงรสแทนการใช้ผงชูรส จากภูมิปัญญาดังกล่าวจึงได้รับคำแนะนำจากนักศึกษาชาวญี่ปุ่นให้ทำการแปรรูปถั่วเหลืองตามภูมิปัญญาดังกล่าว และเปลี่ยนชื่อให้น่าสนใจว่า ผงคินาโกะ
ส่วนประกอบ
1) ถั่วเหลือง
2) เกลือ
วิธีทำ
- ร่อนเมล็ดถั่วเหลืองแตกออก
- ล้างเมล็ดถั่วเหลืองที่คัดคุณภาพเมล็ดแล้วให้สะอาด
- นำไปผึ่งแดดให้แห้ง
- คั่วเมล็ดถั่วกับเกลือป่นด้วยไฟที่อ่อนจนกรอบ
- นำมาบดให้เป็นผงละเอียด
สรรพคุณผงคินาโกะตามตำรับแพทย์แผนไทย
รสมันจากถั่ว สรรพคุณ มีฤทธิ์ซึมซาบไปตามเส้นเอ็น แก้เส้นเอ็นพิการ บำรุงเส้นเอ็น แก้ปวดเมื่อย บำรุงไขข้อ บำรุงเยื่อกระดูก เป็นยาอายุวัฒนะ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และเค็มอ่อนด้วยการเติมเกลือเล็กน้อย สรรพคุณซึมซาบตามผิวหนัง แก้ประดง ชา และคัน (มูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์แผนไทยเดิม, 2559)
ประโยชน์จากการบริโภคผงคินาโกะในมุมมองของชุมชน
ภูมิปัญญาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนในชุมชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ จะบริโภคถั่วเหลืองเป็นหลักทำให้ไม่เป็นโรคภัยไข้เจ็บ เนื่องจากรับประทานแต่ของที่เป็นธรรมชาติ ส่งผลต่อคนรุ่นปัจจุบันในการปรุงอาหารจะใช้ผงปรุงรสคินาโกะ ที่มาจากธรรมชาติในการปรุงอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี
ผงคินาโกะ
ผลิตภัณฑ์ผงคินาโกะ
#LPBG #เราเชื่อว่าโลกนี้ไม่มีวัชพืช #อาหารจากภูมิปัญญาสู่โต๊ะอาหาร #บ้านดอนเจียง #โปรตีนจากพืช